Lookalike ใช้ในโฆษณาอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ?
Key Takeaways:
- Lookalike Audience ใช้ข้อมูลลูกค้าปัจจุบันเพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่คล้ายกัน ซึ่งเพิ่มการขยายตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
- อัลกอริทึมค้นหาผู้ใช้ใหม่จากข้อมูล Custom Audience ช่วยเลือกกลุ่มเป้าหมายความคล้ายคลึงตามความต้องการ
- ขนาดของ Lookalike Audience ขึ้นกับเปอร์เซ็นต์ของประชากรที่กำหนด ความคล้ายสูงแต่อาจมีคนน้อย
- ต่างจาก Custom Audience ที่ใช้ส่งโฆษณาไปยังลูกค้าเดิม Lookalike ค้นหาผู้ใช้ใหม่ที่มีลักษณะใกล้เคียง
- การใช้งาน Facebook Ads Manager จำเป็นต้องมี Business Ads Account และติดตามประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
- การปรับแต่งและทดสอบ Lookalike Audience ช่วยสร้าง Brand Awareness และเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณา
ในยุคดิจิทัล การโฆษณาที่ดีไม่ใช่แค่การเลือกกลุ่มเป้าหมาย แต่คือรู้จักการใช้ Lookalike Audience ให้เกิดประโยชน์สูงสุด หลายคนอาจยังสับสนว่า Lookalike Audience คืออะไร และจะแตกต่างกับ Custom Audience อย่างไร ที่จริงแล้ว Lookalike Audience คือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถขยายการเข้าถึงไปยังกลุ่มคนที่คล้ายคลึงกับลูกค้าเดิมของคุณได้ โดยใช้ข้อมูล Facebook Ads หากคุณต้องการทำให้โฆษณามีประสิทธิภาพสูงสุด และเพิ่มโอกาสในการดึงดูดลูกค้าใหม่ ลองศึกษาข้อมูลนี้เพิ่มเติมในบทความนี้!
Lookalike Audience คืออะไรและมีหลักการทำงานอย่างไร?
บทนำเกี่ยวกับ Lookalike Audience
Lookalike Audience คือการใช้ข้อมูลจากลูกค้าปัจจุบันเพื่อ segmentation สร้าง target audience ใหม่ที่คล้ายกันบนแพลตฟอร์มโฆษณาอย่าง Facebook และ tiktok ads การสร้าง Lookalike เป็นการขยายตลาดและเพิ่มยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่การนำเสนอสินค้าแบบเดิมๆ แต่คือการเข้าถึงคนที่มีคุณสมบัติคล้ายกับกลุ่มลูกค้าของเรามากที่สุด
รูปแบบการทำงานของ Lookalike Audience
Lookalike Audience ทำงานผ่านอัลกอริทึมที่ใช้ข้อมูลจาก Custom Audience เช่น อายุ ที่อยู่ ไลฟ์สไตล์ และความสนใจของกลุ่มลูกค้าเดิม อัลกอริทึมจะค้นหาผู้ใช้ใหม่ๆ ที่มีคุณสมบัติเหมือนกับกลุ่มนี้จากฐานข้อมูลผู้ใช้หลายล้านบัญชีบนแพลตฟอร์ม การกำหนดขนาดกลุ่ม Lookalike ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการความคล้ายคลึงขนาดไหน หากเลือกเปอร์เซ็นต์ต่ำ กลุ่มเป้าหมายจะมีความคล้ายสูง แต่จำนวนคนน้อย และหากเลือกเปอร์เซ็นต์สูง จำนวนคนจะมากขึ้น แต่ความคล้ายจะลดลง
ความแตกต่างระหว่าง Lookalike Audience กับ Custom Audience
Custom Audience คือการใช้ข้อมูลลูกค้าเดิมที่คุณมีอยู่เพื่อส่งโฆษณากลับไปที่กลุ่มลูกค้านั้นๆ ตรงกันข้าม Lookalike Audience เป็นการค้นหาผู้ใช้งานใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยเป็นลูกค้าคุณ แต่มีลักษณะและสนใจเหมือนกลุ่มลูกค้าเดิมของคุณ การใช้งานร่วมกันของทั้งสองประเภททำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในกลยุทธ์การตลาดออนไลน์
ข้อดีของการใช้ Lookalike Audience คืออะไร?
Lookalike Audience ช่วยขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น จนผู้คนที่ไม่คุ้นเคยกับแบรนด์ของเราอาจสนใจได้ ข้อดีสำคัญคือการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับลูกค้าปัจจุบัน เช่น หากลูกค้าปัจจุบันของเราชอบสินค้าประเภทเดียวกัน มีไลฟ์สไตล์คล้ายกัน Lookalike Audience ก็จะช่วยนำลูกค้าใหม่ที่มีความสนใจแบบเดียวกันมาให้เรา
การใช้ Lookalike Audience ยังช่วยให้เราเจาะกลุ่มเป้าหมายได้โดยไม่ต้องเริ่มใหม่จากศูนย์ ระบบของแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Facebook ใช้อัลกอริทึมที่ซับซ้อนเพื่อค้นหากลุ่มเป้าหมายจากข้อมูลผู้ใช้นับล้านคน คุณสามารถมั่นใจได้ว่าการโฆษณาจะถึงมือผู้ที่มีแนวโน้มสนใจสินค้าและบริการของเรา
การเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายคลึงกัน
การเลือกขนาดของ Lookalike Audience เป็นปัจจัยสำคัญ หากคุณต้องการความคล้ายคลึงสูง เลือกขนาดที่เล็ก เช่น 1% ของประชากรเป้าหมาย ข้อดีคือคุณจะได้กลุ่มที่จะตอบสนองต่อโฆษณาของคุณได้ดีกว่า แต่ข้อเสียคือจำนวนคนที่เข้าถึงได้อาจน้อย
ถ้าเลือกขนาดที่ใหญ่ขึ้น คุณจะได้จำนวนมากขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าอาจลดความคล้ายคลึงกับกลุ่มลูกค้าเดิม ด้วย Lookalike Audience คุณสามารถทดสอบขนาดต่างๆ เพื่อดูว่าแบบใดเหมาะกับธุรกิจของคุณที่สุด
ข้อดีจริงๆ เช่น การสร้าง brand awareness อย่างรวดเร็ว เมื่อคุณขยายกลุ่มเป้าหมาย ไม่เพียงแต่คนที่รู้จักแบรนด์จะมากขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มความสนใจและการเรียนรู้เกี่ยวกับสินค้าเช่นกัน
วิธีสร้างและกำหนดขนาดของ Lookalike Audience มีขั้นตอนอย่างไร?
การสร้างและกำหนดขนาดของ Lookalike Audience บน Facebook Ads เป็นส่วนสำคัญในการทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจง โดยวิธีนี้ใช้ข้อมูลจาก Custom Audience ที่มีอยู่เพื่อหากลุ่มคนที่มีพฤติกรรมและลักษณะคล้ายคลึงกับลูกค้าของเรา
ขั้นตอนการสร้าง Lookalike Audience บน Facebook Ads
เริ่มต้นด้วยการเปิด ads facebook Manager จากนั้นเลือก "Audiences" คุณต้องมีบัญชี Business Ads Account ก่อน มองหาเมนู "Create Audience" เลือก "Lookalike Audience" จากเมนูนี้ แล้วกรอกข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่คุณต้องการให้เป็นเป้าหมาย
-
วิธีการตั้งค่าขนาดของ Lookalike Audience
การตั้งค่าขนาดของ Lookalike Audience อาศัยการเลือกเปอร์เซ็นต์ของประชากร หากเลือกเปอร์เซ็นต์ต่ำๆ เช่น 1% กลุ่มเป้าหมายจะคล้ายกับผู้ใช้เดิมมาก แต่จะมีคนน้อย ถ้าเลือกเปอร์เซ็นต์สูงอย่าง 5% จะครอบคลุมคนมาก แต่ความคล้ายจะลดลง -
ปัจจัยที่มีผลต่อการกำหนดขนาด
การกำหนดขนาดของกลุ่มขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น ข้อมูลลูกค้าที่เริ่มต้นใช้สร้าง Custom Audience ยิ่งข้อมูลมีคุณภาพ เช่นมีไลฟ์สไตล์และความสนใจที่เฉพาะเจาะจง การสร้าง Lookalike Audience ยังมีประสิทธิภาพ
Lookalike Audience สามารถช่วยขยายธุรกิจและสร้าง Brand Awareness ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้การใช้ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ร่วมกัน สามารถผสมผสาน Lookalike Audience กับกลุ่มเป้าหมายกว้างๆ เพื่อขยายการเข้าถึงลูกค้าใหม่ให้มากขึ้น
จะใช้งาน Lookalike Audience ในการโฆษณาบน Facebook ได้อย่างไร?
การใช้ Lookalike Audience ใน ads Facebook ช่วยเพิ่มฐานลูกค้าได้ กลุ่มนี้มีลักษณะคล้ายกับลูกค้าปัจจุบัน ข้อมูลเช่น อายุหรือความสนใจ สำคัญมาก เพียงสร้างกลุ่มผ่าน Facebook Ads Manager คุณต้องมีบัญชี Business Ads Account ก่อนเริ่ม
การตั้ง Lookalike Audience ขึ้นอยู่กับขนาดความคล้ายคลึง การตั้งค่าขนาดที่เล็ก กลุ่มเป้าหมายจะคล้ายมาก แต่มีคนน้อย ถ้าขนาดใหญ่ คนเพิ่ม แต่ความคล้ายน้อยลง
การผสมผสาน Lookalike Audience กับกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ
การทดสอบ Lookalike Audience คู่กับกลุ่มเป้าหมายอื่น เช่น บางคนใช้ Broad Audience ยิงไปหลายคน ค้นหาลูกค้าใหม่ วิธีนี้ทำให้เรามีลูกค้าที่หลากหลาย หรือใช้ Custom Audience ที่เน้นลูกค้าเดิม มาช่วยเสริมได้ adtech
เทคนิคการทดลองและการวัดผล
อย่าลืมทดสอบโฆษณาและวัดผลบ่อยๆ อาจเริ่มจากการยิงกลุ่มย่อย แบ่งทดสอบเปรียบเทียบ ช่วยให้เห็นว่าโฆษณาแบบไหนได้ผลดีที่สุด ความสำเร็จในการใช้ Lookalike จำเป็นต้องวัดผลและปรับปรุงตลอดเวลา เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
มีเทคนิคใดบ้างในการเพิ่มประสิทธิภาพ Lookalike Audience?
การเลือกแหล่งข้อมูลที่มีคุณภาพเพื่อสร้าง Lookalike Audience
การสร้าง Lookalike ที่มีประสิทธิภาพ เริ่มที่ข้อมูลดีๆ เราควรเลือกข้อมูลที่ตรงกับเป้าหมาย หากเรามีข้อมูลลูกค้าที่ชัด เช่น อายุ ที่อยู่ ไลฟ์สไตล์ มันจะช่วยมาก เลือกข้อมูลสำคัญเหล่านี้ แล้วนำมาสร้าง Lookalike Audience
ข้อมูลที่มีคุณภาพเป็นหัวใจในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่มีความคล้ายคลึง เพิ่มโอกาสให้โฆษณาของเราทำงานได้ดีขึ้น ลองผสมผสานข้อมูลหลากหลาย เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น มันจะทำให้ brand awareness ของเราเพิ่มขึ้น
การปรับแต่งกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง
การสร้าง Lookalike Audience ไม่ใช่แค่ตั้งแล้วจบ ต้องปรับแต่งอย่างต่อเนื่อง ดูผลลัพธ์โฆษณา วิเคราะห์ว่ากลุ่มเป้าหมายนี้ทำงานได้ดีหรือไม่ ถ้าไม่ต้องปรับให้ตรงใจผู้ใช้
การป้องกันไม่ให้โฆษณาซ้ำซ้อนเกิดจากการใช้ Broad Audience และ Custom Audience ควบคู่กับ Lookalike Audience หาลูกค้าใหม่ โดยไม่ละทิ้งลูกค้าเดิม วิธีนี้เพิ่มศักยภาพในการขาย สร้างความสำเร็จในแบรนด์ได้อย่างยอดเยี่ยม
การทำ Lookalike ต้องใช้ความละเอียด และต้องอัพเดทฐานข้อมูลให้ทันสมัย สำคัญที่ต้องใช้ข้อมูลที่มีความถูกต้องและสรรหากลุ่มเป้าหมายที่มีลักษณะคล้ายลูกค้า การทำแบบนี้สามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า และทำให้แคมเปญของเราออกมาได้ดี customer engagement
สรุปlookalike
Lookalike Audience ช่วยให้การทำโฆษณามีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยวิธีที่เข้าใจง่าย หากทำความเข้าใจการสร้างและการตั้งค่า Lookalike Audience อย่างถูกต้อง จะช่วยขยายกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Brand Awareness หรือเพิ่มโอกาสให้เกิดการเข้าถึง เราสามารถทดลองเทคนิคต่างๆ เพื่อปรับแต่งกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะกับกลยุทธ์โฆษณา ลองนำแนวทางนี้ไปใช้เพื่อเสริมสร้างความสำเร็จในแคมเปญโฆษณาของคุณครับ