Nofollow ใช้ในการทำ SEO อย่างไร?
Key Takeaways:
- Nofollow link สั่งให้ search engine ไม่ตามลิงค์ PageRank ไม่ส่งผ่าน.
- ใช้ nofollow เพื่อควบคุม PageRank, ป้องกันสแปมในบล็อกหรือบอร์ด.
- Nofollow link มีในแพลตฟอร์มเช่น Facebook, Instagram, Twitter.
- ตรวจสอบ nofollow ง่ายๆ โดย Inspect โค้ดใน HTML.
- ใช้ nofollow เมื่อไม่ต้องการส่ง PageRank ไปเว็บอื่น.
- Nofollow links ป้องกัน SEO สูญเสียคุณค่า.
- Google แนะนำใช้ nofollow สำหรับโฆษณาและลิงค์ที่ผู้ใช้เพิ่มเอง.
- การใช้ nofollow อย่างเหมาะสมช่วยป้องกันค่าและคุณภาพลิงก์ในระบบ SEO.
- เว็บไซต์ใหญ่ใช้ nofollow เพื่อกรองลิงค์และรักษาความน่าเชื่อถือ.
ในโลกแห่ง SEO คำว่า "nofollow" อาจดูเป็นเพียงคำใบ้เล็กๆ แต่มีบทบาทสำคัญยิ่งเมื่อพูดถึงการปรับปรุงสถานะออนไลน์ของเว็บไซต์คุณ การออกแบบกลยุทธ์ SEO ที่มีประสิทธิภาพนั้นต้องเข้าใจว่าลิงก์ nofollow ทำงานอย่างไร และส่งผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์อย่างไร บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจว่า nofollow เป็นเครื่องมือที่ธุรกิจและผู้ประกอบการสามารถใช้เพื่อช่วยปรับปรุงกลยุทธ์ดิจิทัลอย่างไรบ้างและทำไมการเลือกใช้ให้ถูกต้องจึงสำคัญมากขึ้นในยุคดิจิทัลปัจจุบัน
อะไรคือ Nofollow Link?
Nofollow link คือคำสั่งที่ใช้ใน HTML ใช้คำสั่ง rel="nofollow" ใส่ในลิงก์ มันบอกให้ search engine ไม่ตามลิงก์นั้น PageRank ของเว็บจะไม่ถูกส่งผ่าน คำสั่งนี้ช่วยป้องกันไม่ให้เว็บเสียคะแนน
ความสำคัญของการใช้ nofollow ใน SEO
Nofollow สำคัญกับ seo เพราะช่วยควบคุม PageRank เว็บบล็อกและเว็บบอร์ดใช้งานบ่อย ป้องกันไม่ให้ bot ส่งคะแนน PageRank ไปเว็บอื่น Nofollow ปกป้องคะแนนของเว็บไว้
วิธีการตรวจสอบ Nofollow Link ในเว็บไซต์
ตรวจสอบ nofollow link ง่ายมาก แค่คลิกขวาที่ลิงก์ เลือก Inspect เพื่อดูโค้ด มองหา rel="nofollow" ถ้ามีก็เป็น nofollow link
แพลตฟอร์มที่มักใช้ nofollow
หลายเว็บใช้ nofollow link กัน เช่น Facebook Instagram และ Twitter ยังมี Youtube และ Pinterest ด้วย เว็บไซต์กระทู้ต่างๆ ที่อาจเป็น backlink ได้ก็เช่นกัน ป้องกันไม่ให้คะแนน SEO ถูกส่งต่อไป
ความแตกต่างระหว่าง Dofollow และ Nofollow คืออะไร?
Dofollow คืออะไรและทำงานอย่างไร?
Dofollow คือลิงก์ที่ช่วยส่งค่าของ PageRank ไปยังเว็บไซต์เป้าหมาย มันเป็นลิงก์ที่เสิร์ชเอนจินสามารถติดตามได้ ทำให้ค่าความน่าเชื่อถือส่งต่อไปยังเว็บไซต์ที่เชื่อมโยง ลิงก์แบบนี้ช่วยในการทำ SEO เพราะมันเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเว็บไซต์ที่เราเชื่อมโยงถึง เรามักใช้กับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องและน่าเชื่อถือ
Nofollow เกี่ยวข้องกับ PageRank อย่างไร?
Nofollow คือการบอกเสิร์ชเอนจินว่า "อย่าส่งค่าของ PageRank ผ่านลิงก์นี้" ลิงก์นี้มีแท็ก rel="nofollow" ภายใน HTML PageRank คือคะแนนที่เสิร์ชเอนจินใช้ในการประเมินความน่าเชื่อถือ Nofollow ป้องกันการสูญเสียคะแนนนี้ ดังนั้นลิงก์นี้ไม่ช่วยให้เว็บไซต์ปลายทางได้คะแนนเพิ่ม แต่ผู้ใช้งานยังสามารถกดคลิกตามลิงก์ได้
กรณีใช้งานของ nofollow ที่เหมาะสม
เราควรให้ nofollow ลิงก์เมื่อไม่ต้องการส่งต่อคะแนน PageRank เช่น ในเว็บบล็อกหรือเว็บบอร์ดที่มีการฝากลิงก์เพื่อป้องกันการสแปม เราใช้แท็กนี้กับลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือเมื่อเราไม่ต้องการรับผิดชอบต่อเนื้อหาของเว็บไซต์ปลายทาง อีกทั้งยังเหมาะกับการลิงก์ไปยังสื่อโซเชียล เช่น Facebook Instagram ที่ไม่จำเป็นต้องรับรองเนื้อหา
ประโยชน์และข้อจำกัดของ Nofollow Link มีอะไรบ้าง?
Nofollow Link มีบทบาทสำคัญในการ seo และ technical seo คำถามที่พบบ่อยคือ "ทำไมถึงใช้ nofollow?" คำตอบคือ nofollow ช่วยควบคุมการไหลของค่าต่าง ๆ ใน SEO มาดูวิธีประโยชน์และข้อจำกัดกัน
Nofollow Link ช่วยลดการเกิดสแปมได้อย่างไร?
การสัมผัสและป้องกันสแปมเป็นประโยชน์หลักของ nofollow Link ผมขออธิบายสั้น ๆ: Nofollow Link ใช้ในเว็บบล็อกและเว็บบอร์ดเพื่อป้องกันลิงค์ที่ไม่พึงประสงค์ วิธีนี้ทำให้ไม่เกิดการไหลของ PageRank ไปยังเว็บแปลกหน้า มันทำให้สแปมเมอร์สูญเสียความสนใจในการตั้งข้อปั่นป่วน
วางข้อควรระวังในการใช้ nofollow
การใช้ nofollow ไม่ใช่ไม่มีความเสี่ยง เราควรระวังไม่ใช้มากเกินไป ในโลกของ SEO การใช้ nofollow ในทางที่ผิดอาจลดค่าความน่าเชื่อถือของเว็บตัวเอง เช่น ถ้าเราทำทุกลิงก์เป็น nofollow มันอาจส่งสัญญาณผิดให้กับ Google จำเป็นต้องใช้เฉพาะในลิงก์ที่เราต้องการป้องกันเท่านั้น
การประเมินผลกระทบของ nofollow ต่อ SEO
หากถามว่า nofollow มีผลต่อ SEO อย่างไร คำตอบคือ nofollow จะไม่ส่งค่าของ PageRank ไปยังเว็บอื่น ซึ่งอาจดูเหมือนปิดกั้นการเติบโตในบางครั้ง แต่ความจริงคือ มันเป็นการสบัดที่ฉลาดในบางกรณี เช่น ไม่ส่งค่าให้เว็บที่ไม่น่าเชื่อถือ สิ่งนี้ช่วยรักษาแนวทางที่ดีในการเชื่อมโยงภายในระบบของเรา
การใช้ nofollow อย่างเหมาะสมคือศิลปะของ SEO ที่ต้องใช้ความระมัดระวังและการประเมินผลในระยะแรก
จะใช้ Nofollow Link ในกรณีใดบ้าง?
ในการทำ SEO เราควรเข้าใจการใช้ nofollow links อย่างดี Nofollow คือคำสั่งใน HTML ซึ่งทำให้ลิงก์ไม่ส่งค่าของ PageRank ไปยังเว็บไซต์อื่น แต่ทำให้เรายังคลิกลิงก์ได้ตามปกติ
ตัวอย่างสถานการณ์ที่ควรเลือกใช้ nofollow
เรามักใช้ nofollow กับความคิดเห็นในบล็อกหรือเว็บบอร์ด เพื่อป้องกันไม่ให้ PageRank ส่งต่อไปยังเว็บที่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น ถ้าเว็บเราอนุญาตให้คนอื่นฝากลิงก์ได้ เราต้องใช้ nofollow เพื่อลดความเสี่ยงต่อ SEO ของเรา
การใช้ nofollow ใน WordPress
ใน WordPress คุณสามารถใช้ปลั๊กอินช่วยเพิ่ม nofollow ได้ง่ายมาก เพียงแค่ติดตั้งปลั๊กอิน และตั้งค่าให้ลิงก์ที่ต้องการเป็น nofollow เท่านี้ก็ปรับปรุงได้อย่างรวดเร็ว
วิธียื่นคำสั่ง nofollow ผ่าน HTML
การเพิ่มคำสั่ง nofollow ผ่าน HTML คุณต้องใส่ tag rel="nofollow" ไปในลิงก์ เช่น <a href="https://example.com" rel="nofollow">Example</a>
วิธีนี้ช่วยให้เราควบคุมการส่งผ่านค่าของ PageRank ได้
การใช้ nofollow อย่างเหมาะสมจะช่วยป้องกัน SEO ของเรา เป็นวิธีที่ดีในการป้องกันค่าของเว็บไซต์และรักษาคุณภาพของลิงก์ที่เรามี
คำแนะนำของ Google เกี่ยวกับการใช้งาน nofollow มีอะไรบ้าง?
คำแนะนำของ Google เรื่องการใช้ nofollow
Google แนะนำให้ใช้ nofollow ในลิงก์ที่ไม่ต้องการให้ bot ติดตาม เช่น ลิงก์โฆษณา และลิงก์ที่เกิดจากผู้ใช้ การใช้ nofollow จะช่วยป้องกันไม่ให้ค่าของ PageRank ถูกส่งไปยังอีกเว็บหนึ่ง ลิงก์ที่ถูกทำเครื่องหมายนี้ยังคงให้ผู้ใช้คลิกได้ตามปกติ แต่จะไม่ช่วยให้ลิงก์นั้นมีผลในการจัดอันดับ SEO
ความแตกต่างระหว่าง noindex กับ nofollow
noindex และ nofollow มีหน้าที่ต่างกัน noindex จะสั่งให้ Google bot ไม่จัดเก็บเว็บเพจนั้นในผลการค้นหา ส่วน nofollow จะปิดการติดตามลิงก์เพื่อไม่ให้ให้ค่าของ PageRank ออกไปจากเว็บ เบื้องหลังการทำงานของทั้งคู่คือการควบคุมว่าอะไรที่ bot ของ Google จะต่อไปสำรวจและจัดเก็บ
กรณีศึกษาจากเว็บไซต์ที่ใช้ nofollow
มีเว็บไซต์หลายแห่งที่ใช้ nofollow เช่น Facebook Instagram และ Twitter เมื่อคุณโพสต์ลิงก์บนเว็บเหล่านี้ มันจะถูกทำเป็น nofollow สาเหตุเพราะเว็บเหล่านี้ไม่ต้องการให้ค่าของ PageRank ส่งออกไป เว็บไซต์ที่ใช้กลยุทธ์นี้จะสามารถควบคุมว่าลิงก์ที่จะให้ภายนอก จะส่งผลใน SEO มากน้อยแค่ไหน การทำนี้ช่วยให้การเชื่อมโยงลิงก์ออกไปยังเว็บอื่นไม่ได้ทำให้เว็บไซต์ต้นทางสูญเสียคุณค่าใน PageRank
ตัวอย่างลิงก์ที่มักจะเป็น Nofollow Link มีอะไรบ้าง?
แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ใช้ nofollow
คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมบางลิงก์ในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจึงไม่มีผลต่อ SEO? เป็นเพราะว่าลิงก์เหล่านั้นมีการใช้ nofollow แท็ก ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้ค่าของ PageRank นำไปสู่เว็บไซต์อื่น แพลตฟอร์มชื่อดังเช่น Facebook Instagram Twitter และ Pinterest ใช้ nofollow กับลิงก์ทั้งหมดที่ผู้ใช้งานโพสต์ นี่เป็นวิธีที่แพลตฟอร์มใช้ป้องกันการสแปมลิงก์และรักษาความสมบูรณ์ของการค้นหาภายใน
การใช้ nofollow ในคอมเมนต์และฟอรั่ม
การใช้ nofollow เป็นสิ่งสำคัญในเว็บบอร์ดและบล็อกคอมเมนต์ ลองนึกถึง WordPress ที่ใช้ nofollow กับลิงก์ที่มาจากคอมเมนต์ การป้องกันนี้จะช่วยจำกัดการส่งต่อ PageRank ไปยังเว็บไซต์เหล่านั้น และลดความเสี่ยงจากการสแปมที่มากับคอมเมนต์ที่ไม่พึงประสงค์ เว็บฟอรั่มที่เปิดให้ผู้ใช้โพสต์ลิงก์มักใช้ nofollow เพื่อปกป้องข้อมูลและรักษาคุณภาพของการสนทนา
การระบุแหล่งที่มาที่นิยมใช้ nofollow
แหล่งข้อมูลออนไลน์และข่าวสารหลายแห่งใช้ nofollow เมื่อเชื่อมโยงไปยังแหล่งภายนอก นี่เป็นการปกป้องคุณภาพของเนื้อหาและป้องกันไม่ให้ PageRank หลุดออกไปง่ายๆ ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ข่าวหรือบล็อกที่ต้องการรักษาความเชื่อถือได้ของเนื้อหาจะเลือกใช้ nofollow สำหรับลิงก์ที่นำไปสู่เว็บไซต์ที่สัมพันธ์กับหัวข้อ แต่ไม่จำเป็นต้องถ่ายทอดค่าของ PageRank นี่คือวิธีในการจัดการลิงก์ออกจากเว็บไซต์ได้อย่างดีและป้องกันการสแปมที่อาจเกิดขึ้นตามมา
Nofollow Link สำคัญกับการทำ SEO ยุคปัจจุบันอย่างไร?
บทบาทของ nofollow ในทราฟฟิกและการจัดอันดับ
nofollow ช่วยควบคุมค่า PageRank บนเว็บเรา เวลาที่เราเชื่อมลิงก์ออกไปยังเว็บอื่น ค่า SEO หรืออันดับในการค้นหา won't pass ผ่านลิงก์ nofollow นี้ แม้ว่า Google bot จะไม่ไล่ตามลิงก์ แต่การปิดกั้น PageRank ไว้มีข้อดี เช่น การป้องกันสแปมลิงก์ และควบคุมการไหลของค่าภายในเว็บเรา
กลยุทธ์การใช้ nofollow ที่มีประสิทธิภาพ
เราต้องใช้ nofollow กับลิงก์ที่ไม่อยากให้ค่าค้นหาส่งออกไป ที่นิยมคือการใช้กับลิงก์โฆษณา หรือกับคอมเมนต์ในบล็อก การทำแบบนี้จะช่วยป้องกันการส่งผ่านค่า SEO ไปยังเว็บที่เราไม่ต้องการจะสนับสนุน การใช้ internal link อย่างถูกต้องสามารถช่วยรักษาค่าของเว็บไซต์เรา
ทำไมเว็บไซต์ใหญ่ถึงเลือกใช้ nofollow
เว็บใหญ่ๆ เช่น Facebook Instagram ใช้ nofollow เพื่อป้องกันสแปมลิงก์ การที่ทุกคนสามารถโพสต์ลิงก์ได้นั้น อาจทำให้เว็บโดนยึดค่าความน่าเชื่อถือได้ง่าย การใช้ nofollow จะช่วยกรองและป้องกันการเสียค่า SEO ที่ไม่จำเป็น และยังคงความเชื่อถือของเว็บเราไว้ได้
สรุปnofollow
Nofollow link สำคัญในโลกของ SEO ในปัจจุบัน บล็อกนี้ช่วยให้เราเข้าใจความหมายของ nofollow link, ผลกระทบต่อ SEO, วิธีตรวจสอบในเว็บไซต์, และเมื่อควรใช้งาน นอกจากช่วยลดสแปมแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้งานที่ถูกต้อง คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์และปกป้องจากความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้สร้างเว็บไซต์หรือบล็อกเกอร์ การรู้วิธีใช้ nofollow link จะเป็นประโยชน์แก่คุณเสมอ