google ads มีอะไรบ้าง? คำถามที่คุณควรรู้
Key Takeaways:
- google ads มีอะไรบ้าง: มี 9 ประเภทหลัก เช่น Search Ads, Display Ads, Shopping Ads, Video Ads, Mobile App Ads, Remarketing Ads, Smart Campaigns, Discovery Ads, Local Ads Campaigns.
- ประเภทของ Google Ads: Search Campaign ใช้คีย์เวิร์ด; Display Campaign ใช้แบนเนอร์; Video Campaign เหมาะกับ YouTube.
- ส่วนประกอบของ Google Search Ads: Headline, Description, Call-to-Action.
- การตั้งค่าและการใช้งบประมาณ: คีย์เวิร์ดสำคัญ, เครื่องมือช่วยเลือกคีย์เวิร์ด, บริหารงบให้มีประสิทธิภาพ, Smart Bidding.
- แนวโน้ม Google Ads 2024: การหยุดใช้ Third-Party Cookies, Performance Max ช่วยโฆษณาครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม, การเติบโตของ Shopping Ads.
- ผลประโยชน์: เพิ่มยอดขายออนไลน์, เพิ่มการรับรู้แบรนด์, เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่.
google ads มีอะไรบ้าง? คำถามนี้เป็นหนึ่งในข้อข้องใจที่ยอดฮิตของเจ้าของธุรกิจที่ต้องการเพิ่มยอดออนไลน์และพัฒนาการตลาดดิจิทัลให้ได้ผลเต็มที่ ในโลกที่การแข่งขันเข้มข้น การรู้จักเครื่องมือนี้คือก้าวแรกสู่ความสำเร็จที่แท้จริง จากแคมเปญค้นหาไปจนถึงแคมเปญโชว์และวิดีโอ Google Ads มีหลายประเภทที่เหมาะกับกลยุทธ์ต่าง ๆ พร้อมมาติดตามเพื่อเปิดเผยคำตอบและทำให้คุณเข้าใจถึงศักยภาพที่แท้จริง!
Google Ads คืออะไรและมีอะไรบ้าง?
Google Ads คืออะไร?
Google Ads คือเครื่องมือการโฆษณาของ Google มันช่วยให้ธุรกิจประมูลเพื่อให้แสดงผลในหน้าแรก โฆษณายังปรับตามวัตถุประสงค์ของคุณ เช่น การขาย หรือเพิ่มการรับรู้แบรนด์ Google Ads ช่วยดึงดูดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจน
google ads มีอะไรบ้าง?
Google Ads มี 9 ประเภทหลัก หนึ่งคือ Search Ads ที่ใช้คีย์เวิร์ด เพื่อให้เว็บไซต์แสดงผลในอันดับต้น GDN หรือ Google Display Network แสดงผลตรงเว็บไซต์ ด้วยแบนเนอร์รูปภาพหรือข้อความ Google Shopping Ads โชว์รูปและราคาสินค้าในผลการค้นหา Video Ads บน YouTube (bumper ads) เหมาะกับการสื่อความรู้สึกด้วยวิดีโอ Mobile App Ads สร้างมาเพื่อโปรโมทแอปโดยเฉพาะ Remarketing Ads นำโฆษณากลับมาแสดงเพื่อกระตุ้นการซื้อ Smart Campaigns มี AIช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็ก Discovery Ads นำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจให้คุณ Local Ads Campaigns ช่วยลูกค้าท้องถิ่นเห็นข้อมูลคุณใน Google Maps
ประเภทของ Google Ads
Search Ads ใช้คีย์เวิร์ดแสดงถึงเว็บไซต์คุณ GDN ใช้แบนเนอร์รูปภาพในเว็บหลากหลาย Shopping Ads โชว์สินค้าเพื่อสร้างความสนใจ Video Ads เหมาะสำหรับการสื่อภาพลักษณ์ Mobile App Ads เฉพาะเจาะจงการตลาดแอป Remarketing Ads กระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อ Smart Campaigns เหมาะกับธุรกิจเล็กใช้ AI Discovery Ads สำหรับเพิ่มแบรนด์ให้เป็นที่รับรู้ Local Ads ให้ลูกค้าท้องถิ่นพบร้านคุณ
ประเภทของ Google Ads มีอะไรบ้าง?
Google Ads มีหลายแบบครับ เพื่อช่วยให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมายต่าง ๆ ตั้งแต่การขายสินค้า การเพิ่มผู้เข้าชมเว็บไซต์ หรือการสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ ตัวหลัก ๆ ที่เราควรรู้จักมีดังนี้:
Search Campaign
Search Ads ใช้คำค้นหาครับ เพื่อให้เว็บไซต์ของธุรกิจโผล่ขึ้นบน Google การใช้งาน Search Ads ช่วยให้ธุรกิจแสดงในอันดับต้น ๆ โดยใช้จำนวนเงินที่ประมูล สามารถเชื่อมต่อกับผู้ที่กำลังค้นหาข้อเสนอที่ตรงกับธุรกิจของคุณได้ทันที
Display Campaign
Google Display Network หรือ GDN ใช้ภาพและข้อความโฆษณาบนเว็บไซต์ต่าง ๆ ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น GDN ช่วยให้แบรนด์แสดงต่อผู้ใช้เฉพาะกลุ่ม และเป็นเครื่องมือในการสร้างรับรู้ถึงแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพ
Video Campaign
Video Ads บน YouTube เหมาะมากสำหรับธุรกิจที่ต้องการใช้เนื้อหาวิดีโอเข้าถึงผู้ชม Video Campaign ช่วยให้เราเล่าเรื่องราวของแบรนด์ได้อย่างน่าสนใจ รวมถึงสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายผ่านการดูวิดีโอที่น่าสนใจ
ส่วนประกอบของ Google Search Ads มีอะไรบ้าง?
เมื่อพูดถึงส่วนประกอบของ Google Search Ads มีอะไรบ้าง? สิ่งสำคัญคือสามส่วน: Headline, Description, และ Call-to-Action (CTA)
Headline
Headline จำเป็นในการดึงดูดผู้ชมให้คลิกเข้าลิงก์ของเรา คำไม่ควรยาวและต้องเข้าใจง่าย สิ่งที่ช่วยได้คือการใช้คำที่ตรงกับการค้นหาของผู้ใช้ หากเราสามารถตอบคำถามที่พวกเขาถามในหัวข้อของเรา เราจะเพิ่มโอกาสในการได้รับคลิกมากขึ้น เช่น ถ้าคุณขายรองเท้ากีฬา อาจใช้หัวข้อว่า "รองเท้ากีฬาราคาถูก" เพื่อดึงดูด
Description
Description ขยายข้อความจากหัวข้อและให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ มีที่ว่างมากขึ้นในการอธิบายว่าทำไมสินค้าของคุณถึงดี ต้องชัดเจนและเรียนรู้ที่จะใช้คำที่จะกระตุ้นความสนใจ เช่น หากคุณมีโปรโมชั่นพิเศษ ควรจะบอกในส่วนนี้
Call-to-Action
Call-to-Action (CTA) คือจุดที่เราต้องกระตุ้นให้ผู้ชมทำอะไรบางอย่าง ใช้คำชักชวน เช่น "ซื้อเลย" หรือ "เรียนรู้เพิ่มเติม" คำเหล่านี้ช่วยดึงดูดให้คนคลิกและทำให้เกิดผลต่อธุรกิจ เชื่อว่าฉันได้คำที่ดีกว่าก็คือการรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้าผ่านการทดลองหลายๆ ครั้ง
Google Ads จึงไม่ใช่แค่การใส่เงินและรอผล ทุกส่วนต้องประกอบให้กันอย่างดีกับการใช้งานคำที่ตรงจุด
การเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาด้วย Google Ads
การตั้งค่า Google Ads
การใช้ Google Ads สำคัญที่การตั้งค่าสูงสุดเริ่มต้นจากการเลือกคีย์เวิร์ด คำตอบคือ คีย์เวิร์ดช่วยเชื่อมธุรกิจของคุณกับผู้คนที่ต้องการ สิ่งที่ได้คือเมื่อลูกค้าค้นคีย์เวิร์ดนี้ โฆษณาของคุณจะแสดง การเลือกคีย์เวิร์ดที่ใช่คือการเริ่มต้นที่ดี
ใช้เครื่องมือ Google Keyword Planner เพื่อวิเคราะห์คีย์เวิร์ดในอุตสาหกรรมของคุณ คำตอบคือเครื่องมือนี้จะให้คำแนะนำคีย์เวิร์ดพร้อมข้อมูลการค้นหา
การใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ
บริหารงบประมาณใน Google Ads อย่างมีประสิทธิภาพ ขึ้นอยู่กับการเลือกรูปแบบโฆษณาที่ตอบโจทย์ คำตอบคือคุณเลือกได้ว่าต้องการให้โฆษณาแสดงในรูปแบบไหน
ใช้ Google Ads Budget ให้มั่นใจกับการลงทุนในโฆษณาแต่ละแคมเปญ ใช้งบประมาณให้ตรงเป้าหมายเพื่อลดการสิ้นเปลือง
Smart Bidding Strategies
Google Ads มีระบบเสนอราคาที่เรียกว่า Smart Bidding คำตอบคือระบบนี้ใช้ AI ช่วยในการบริหารงบ
Smart Bidding ช่วยให้คุณควบคุมงบประมาณได้ด้วยข้อเสนอราคาที่ดีที่สุด และเพิ่มโอกาสในการทำให้โฆษณาของคุณประสบความสำเร็จและเข้าทำธุรกรรมได้ดีที่สุด
แนวโน้มและเทรนด์ของ Google Ads ในปี 2024
การเปลี่ยนแปลง Third-Party Cookies
Google จะหยุดใช้ Third-Party Cookies เร็วๆ นี้ เพราะเหตุผลด้านความปลอดภัย ข้อมูลผู้ใช้จะมีการป้องกันมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลกระทบต่อการโฆษณา ธุรกิจต้องหันมาใช้ข้อมูล First-Party มากขึ้น First-Party Data เกิดจากลูกค้าที่มีประสบการณ์กับแบรนด์อีกครั้ง สามารถใช้เครื่องมือเช่น Google’s Privacy Sandbox แทนได้ เครื่องมือนี้จะช่วยให้ธุรกิจยังสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้
Performance Max
Performance Max คืออะไร? มันคือแคมเปญแบบอัตโนมัติที่เจ๋งมากๆ ช่วยให้โฆษณาของเราครอบคลุมแพลตฟอร์มต่างๆ อย่างคุ้มค่า มีการใช้ AI และ Machine Learning ช่วยให้โฆษณามีประสิทธิภาพสูงสุด เครื่องมือนี้ทำให้แคมเปญได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น คุณแค่ใส่เป้าหมาย ระบบจะจัดการที่เหลือ Performance Max ช่วยให้เราเห็นข้อมูลโฆษณาแบบครบวงจร
การเติบโตของ Google Shopping Ads
Google Shopping Ads ได้รับความนิยมมากขึ้นใน 2024 แสดงภาพสินค้า ราคา และรายละเอียด โดยตรงในผลการค้นหา มันช่วยเราขายสินค้าได้ง่ายขึ้น เช่นการเพิ่มยอดขายร้านค้าออนไลน์ ข้อมูลสินค้าช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น ธุรกิจค้าขายสินค้าต้องไม่พลาดเครื่องมือแบบนี้ Google ได้ทำให้ Ads นี้แข็งแกร่งและใช้ง่ายขึ้น
Google Ads ใน 2024 มีความเปลี่ยนแปลงและแนวทางใหม่ๆ การใช้ Performance Max จะเพิ่มประสิทธิภาพการโฆษณาได้จริง พวก Third-Party Cookies หายไป แต่ใช้งาน Privacy Sandbox แทน Shopping Ads เป็นอีกแนวทางที่ช่วยเพิ่มยอดขาย
ผลประโยชน์ของการใช้ Google Ads
การเพิ่มยอดขายออนไลน์
Google AdWords สามารถเพิ่มยอดขายออนไลน์ได้อย่างมาก ด้วยความสามารถในการประมูลคำหลัก ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? คุณสามารถโฆษณาธุรกิจบนหน้าแรกใน Google Search ได้เลยครับ นี่คือการใช้ Search Ads คัดคำหลักที่ตรงกับธุรกิจ ในการแสดงให้เว็บไซต์ของคุณขึ้นบนตอนแรก
การเพิ่มการรับรู้แบรนด์
Google Display Network (GDN) ช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ได้โดยใช้ภาพและข้อความ แบนเนอร์เหล่านี้แสดงบนเว็บไซต์ต่างๆ การมองเห็นที่กว้าง ช่วยให้แบรนด์เราเข้าถึงผู้คนมากขึ้น
การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่
การใช้ ยิงแอด YouTube เป็นช่องทางช่วยขยายกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มคนใหม่ๆ จะได้รู้จักแบรนด์ผ่านเนื้อหาวิดีโอที่น่าดึงดูด รวมทั้ง Remarketing Ads ก็มีส่วนสื่อให้ลูกค้าเก่ากลับมาทำธุรกรรมกับเราอีกครั้งด้วย
Google Ads สำคัญมากในยุคดิจิทัลที่ใครๆ ก็ออนไลน์ครับ ไม่น่าแปลกใจที่ธุรกิจมากมายจะเลือกใช้เครื่องมือนี้เพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้าไปพร้อมกัน
สรุปgoogle ads มีอะไรบ้าง
Google Ads มีอะไรบ้าง? Well, Google Ads offers tools like Search, Display, and Video campaigns. It helps boost sales, build brand awareness, and reach new audiences. By optimizing your ads and using smart bidding, you can manage your budget wisely. Stay updated with trends like Performance Max to maximize benefits. Using Google Ads effectively could help your business grow and connect with more customers.